เลือกหัวข้อที่อ่าน
- ทำไมต้อง SMILE Pro
- Femto LASIK, ReLEx SMILE และ SMILE Pro ต่างกันอย่างไร?
- ขั้นตอนการทำ SMILE Pro มีวิธีการอย่างไร?
- SMILE Pro มีข้อดีอย่างไร?
- SMILE Pro เหมาะกับใคร?
- ReLEx SMILE และ SMILE Pro มีอัตราการประสบความสำเร็จมากแค่ไหน?
- SMILE Pro ใช้เวลาในการพักฟื้นกี่วัน?
- SMILE Pro รพ.เมดพาร์ค
- ลงทะเบียนรับสิทธิ์ ฟรี!
SMILE Pro
SMILE Pro คือ เทคโนโลยีการผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติรุ่นล่าสุดด้วย Femtosecond Laser ที่ทันสมัยที่สุดด้วยเครื่อง Visumax 800 ในการยิงเลเซอร์แยกชั้นเนื้อเยื่อกระจกตาออกเป็นแผ่นบาง ๆ ให้มีรูปร่างคล้ายเลนส์ หรือ “เลนส์ติคูล” (Lenticule) เพียง 8-10 วินาที ต่อ 1 ตา เร็วกว่า ReLEx SMILE ถึง 3 เท่า แล้วดึงแผ่นเลนส์ติคูลออกจากกระจกตาผ่านแผลผ่าตัดด้านข้างขนาดเล็กเพียง 2-4 มิลลิเมตร เพื่อปรับรูปร่างและความโค้งของกระจกตาให้พอดีกับจุดหักเหของแสง ช่วยให้จุดรวมแสงตกกระทบลงบนตำแหน่งจอประสาทตา ทำให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติโดยไม่ต้องสวมใส่แว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป SMILE Pro ช่วยให้สนุกกับทุกไลฟ์สไตล์ ทำลายข้อจำกัดการใช้ชีวิต และช่วยให้พิชิตงานในฝัน
ภาพจาก: https://www.zeiss.com/
ทำไมต้อง SMILE Pro
การทำเลสิคเพื่อแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ สามารถกระทำได้ 2 วิธี คือ 1. การเปิดฝากระจกตาด้วยใบมีด (Blade LASIK) และ 2. การเปิดฝากระจกตาด้วย Femtosecond Laser ทั้งนี้ การทำเลสิคใบมีด อาจทำให้การเปิดฝากระจกตาทำได้ไม่สมบูรณ์ ฝากระจกตามีความหนาที่ไม่สม่ำเสมอ เกิดการสูญเสียความโค้งตามธรรมชาติของกระจกตา และเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
สมายล์โปร (SMILE Pro) เป็นนวัตกรรมการทำเลสิคแบบไม่เปิดฝากระจกตา ช่วยคงความสมบูรณ์แข็งแรงของกระจกตา ฝากระจกตามีความหนาที่สม่ำเสมอ ช่วยคงความโค้งตามธรรมชาติของกระจกตา ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการเปิดกระจกตา และได้รับการยอมรับในวงการจักษุวิทยาว่ามีความแม่นยำและปลอดภัยสูง
Femto LASIK, ReLEx SMILE และ SMILE Pro ต่างกันอย่างไร?
ขั้นตอนการทำ SMILE Pro มีวิธีการอย่างไร?
ขั้นตอนก่อนการทำ SMILE Pro
งดการสวมใส่คอนแทคเลนส์
- ก่อนวันตรวจประเมินสภาพตาและก่อนวันผ่าตัด จักษุแพทย์จะขอให้ผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์แบบแข็ง (Hard Lens) หรือแบบกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi Hard Lens) งดการสวมใส่คอนเลนส์ดังกล่าวอย่างน้อย 21 วัน ในระหว่างนี้ ผู้รับการผ่าตัดสามารถสวมใส่แว่นสายตาได้
- ผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์แบบนิ่ม (Soft Lens) จักษุแพทย์จะขอให้งดการสวมใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 7 วัน ก่อนวันตรวจประเมินสภาพตาและก่อนวันผ่าตัด โดยสามารถสวมใส่แว่นสายตาได้
หยุดยาบางชนิด
- จักษุแพทย์จะขอให้ผู้ที่ทานยารักษาสิวในกลุ่ม Isotretinoin เช่น Roaccutane หรือ Acnotin งดการทานยาดังกล่าวอย่างน้อย 1 เดือนก่อนวันตรวจประเมินสภาพตาและก่อนผ่าตัด เนื่องจากยากลุ่มนี้อาจส่งผลข้างเคียงให้เยื่อบุตา และผิวกระจกตาแห้งกว่าปกติ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือทานยารักษาโรคประจำตัว เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน ยาลดไขมัน ยารักษาความดัน ยารักษาโรคไทรอยด์ รวมทั้งยานอนหลับทุกชนิด ควรแจ้งให้จักษุแพทย์ทราบในการพบจักษุแพทย์ครั้งแรก หรือก่อนการตรวจประเมินสภาพตาโดยไม่จำเป็นต้องงดยาก่อนวันเข้ารับการผ่าตัดแต่อย่างใด
การตรวจวินิจฉัยสภาพดวงตา
- จักษุแพทย์จะทำนัดตรวจวินิจฉัยสภาพดวงตาด้วยเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์ (Automated Refractometer) เพื่อตรวจและวัดค่าสายตาก่อนและหลังหยอดยาขยายม่านตา (Manifest Refraction and Cycloplegic Refraction) ตรวจสุขภาพดวงตา (Slit-lamp Examination) และการตรวจเฉพาะทางอื่น ๆ หากผู้เข้ารับการตรวจมีสุขภาพดวงตาที่สมบูรณ์ จักษุแพทย์จะทำนัดให้เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขสายตา SMILE Pro ตามวันและเวลาที่ผู้เข้ารับการรักษาสะดวก
- หากผลการตรวจวินิจฉัยสภาพดวงตาของผู้เข้ารับการตรวจไม่สมบูรณ์ เช่น มีอาการตาแห้ง ตาอักเสบ ติดเชื้อ ทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางจะทำการรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีก่อนแล้วจึงจะพิจารณาเข้าสู่ขั้นตอนการทำ SMILE Pro
- สำหรับผู้ที่มีผลการตรวจวินิจฉัยไม่สามารถทำ SMILE Pro ได้ จักษุแพทย์จะพิจารณาการแก้ไขค่าสายตาด้วยวิธีการอื่นที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล เช่น การทำ PRK หรือการผ่าตัดใส่เลนส์เสริม ICL
งดการแต่งหน้า
- งดการแต่งหน้า การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ 1 วันก่อนการผ่าตัดและในวันผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่อาจตกค้างหรือทำความสะอาดได้ไม่หมด จนอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในดวงตาหลังการผ่าตัด
ขั้นตอนระหว่างการทำ SMILE Pro
ภาพจาก: https://www.zeiss.com/
- การสร้างเลนส์ติคูล (Lenticule creation) จักษุแพทย์จะแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติด้วยวิธี SMILE Pro โดยการใช้ Femtosecond Laser ตัดและแยกชั้นเนื้อเยื่อกระจกตาเป็นทรงกลมแผ่นเล็ก ๆ รูปเลนส์ หรือที่เรียกว่า“เลนส์ติคูล”(Lenticule) ภายในกระจกตา โดยจะใช้ระยะเวลาในการยิง Femtosecond Laser เพียง 8-10 วินาทีเท่านั้น จากนั้นจะค่อย ๆ เปิดแผลด้านข้างกระจกตาที่มีขนาดเล็กเพียง 2-4 มิลลิเมตร เพื่อนำเลนส์ติคูลออก
ภาพจาก: https://www.zeiss.com/
2. นำเลนส์ติคูลออก (Lenticule removal) จักษุแพทย์จะค่อย ๆ นำแผ่นเนื้อเยื่อกระจกตา หรือเลนส์ติคูลออกผ่านแผลด้านข้างกระจกตาอย่างระมัดระวังโดยไม่เปิดฝากระจกตาด้านบนขึ้น
ภาพจาก: https://www.zeiss.com/
3. ค่าสายตาได้รับการแก้ไข (Refractive correction) เมื่อการนำแผ่นเนื้อเยื่อกระจกตา หรือเลนส์ติคูลออกจากแผลบนผิวกระจกตาเสร็จสิ้น ความโค้งของกระจกตาจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยน จุดหักเหของแสง และการรวมแสงบนจอประสาทตาจะค่อย ๆ ปรับสมดุลค่าสายตาให้เป็นปกติ ทำให้ผู้ที่มีค่าสายตาสั้น หรือค่าสายตาเอียงสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเป็นปกติเหมือนกับผู้ที่มีค่าสายตาปกติทั่วไป
การดูแลตนเองหลังการทำ SMILE Pro
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตา หรือบีบตาแรง ๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
- งดการล้างหน้า และระวังไม่ให้น้ำเข้าตาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดการใช้เครื่องสำอางรอบดวงตาเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- งดการว่ายน้ำ และดำน้ำเป็นเวลา 1 เดือน
- หยอดยาตรงเวลาทุกครั้งตามจักษุแพทย์สั่ง
- สวมใส่ที่ครอบตาตอนนอนทั้งกลางวันและกลางคืน อย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อกันฝุ่นละออง และการขยี้ตาโดยไม่ระวัง
- สวมแว่นกันแดดในเวลากลางวันเพื่อป้องกันแสงแดดจ้า ลมแรง ที่อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง
- หลีกเลี่ยงกิจกรรม หรือการออกกำลังกายที่อาจทำให้มีเหงื่อเข้าตาเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกบริเวณดวงตาอย่างน้อย 3 เดือน
- งดการใช้สายตาจ้องมองเป็นระยะเวลานาน งดการดูจอ หรือการอ่านหนังสือนาน ๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- พบจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลตามนัดหมายทุกครั้งเพื่อติดตามอาการ และประเมินผลการรักษา
SMILE Pro มีข้อดีอย่างไร?
- รวดเร็ว (Fast) SMILE Pro ใช้เทคโนโลยี Femtosecond Laser ที่ใช้เวลาในการยิงเลเซอร์เพียง 8-10 วินาทีเท่านั้น เร็วกว่า ReLEx SMILE ถึง 3 เท่า
- แม่นยำ (Precise) เครื่อง Visumax 800 สามารถกำหนดตำแหน่งความโค้งของกระจกตาตามการคำนวนของจักษุแพทย์ได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังมี Sensor ระบบดิจิตอลประสิทธิภาพสูงที่ช่วยกำหนดจุดกึ่งกลางในการยิงเลเซอร์เนื้อเยื่อชั้นกระจกตา หรือเลนส์ติคูล ช่วยเตือนจักษุแพทย์หากตำแหน่งของลูกตามีการเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งที่คำนวนไว้
- ปลอดภัย (Safe) SMILE Pro ใช้ Femtosecond Laser เปิดแผลด้านข้างกระจกตาโดยไม่เปิดฝากระจกตาขึ้น ลดโอกาสเสี่ยงที่อาจเกิดจากเครื่องยึดลูกตาสูญเสียแรงดูดเนื่องจากการกลอกตา ภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อเนื่องจากการเปิดฝากระจกตาขึ้น เป็นต้น
- ไม่เปิดฝากระจกตา (Flapless Innovation) SMILE Pro เป็นนวัตกรรมการทำเลสิกแบบไม่เปิดฝากระจกตา ช่วยคงความแข็งแรงของกระจกตาหลังรับการผ่าตัด ทั้งยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อเนื่องจากการเปิดฝากระจกตา อาการกระจกตาเคลื่อนหลังการผ่าตัด และการงอกใหม่ตามธรรมชาติของเยื่อบุเซลล์เข้าไปในใต้ฝากระจกตา
- ขนาดแผลผ่าตัดเล็กมาก (Very Small Incision) SMILE Pro แก้ไขค่าสายตาโดยการปรับความโค้งของกระจกตาและนำเนื้อเยื่อกระจกตา หรือเลนส์ติคูลออก (Lenticule extraction) โดยมีแผลผ่าตัดขนาดเล็กมากเพียง 2-4 มิลลิเมตรเท่านั้น เล็กกว่าการทำเลสิกด้วยวิธี FemtoLASIK ถึง 80 % ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัด และช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วหลังการผ่าตัด
- ช่วยคงความโค้งของกระจกตาด้านนอก (Preservation of Corneal Integrity) เทคโนโลยีการผ่าตัดของ SMILE Pro ช่วยให้ชั้นกระจกตาด้านนอกได้รับการกระทบกระเทือนน้อย ช่วยคงความโค้งตามธรรมชาติของกระจกตาหลังรับการผ่าตัดไว้ได้มากที่สุด
- ลดผลข้างเคียง (Reduce Side Effects) SMILE Pro เป็นการผ่าตัดแบบแผลเล็กที่ลดการตัดผ่านเส้นประสาทรอบดวงตาที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น อาการตาแห้ง ตาอักเสบ อาการมองเห็นไม่ชัดในที่แสงน้อย หรือเห็นแสงกระจายในที่มืด
- ร่นระยะเวลาในการพักฟื้น (Minimal Downtime) ผู้ที่ทำเลสิกแบบ SMILE Pro ส่วนใหญ่สามารถใช้สายตาในวันรุ่งขึ้นหลังเข้ารับการผ่าตัดได้ทันที
ReLEx SMILE และ SMILE Pro แตกต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างระหว่าง ReLEx SMILE และ SMILE Pro คือ ความเร็วของ Femtosecond Laser ของเครื่อง VisuMax 800 ที่ใช้ยิงเลเซอร์ โดย ReLEx SMILE จะใช้ความเร็วในการยิงเลเซอร์ 25-27 วินาที ในขณะที่ SMILE Pro จะใช้ความเร็วในการยิงเลเซอร์เพียง 8-10 วินาทีเท่านั้น ร่นระยะเวลาการผ่าตัด ช่วยให้ดวงตาได้รับการกระทบกระเทือนน้อยที่สุด และช่วยให้ผู้รับการรักษาได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด
SMILE Pro เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีสุขภาพตาโดยรวมดี มีกระจกตาสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคที่เกี่ยวกับกระจกตา
- ผู้ที่มีค่าสายตาสั้นไม่เกิน 1000 (-10.00 Diopters) สายตาเอียงไม่เกิน 500 (-5.00 Diopters) หรือมีสายตาสั้นร่วมกับสายตาเอียง
- ผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-50 ปี โดยมีค่าสายตาคงที่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาไม่เกิน 50 ใน 1 ปี
SMILE Pro ไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับกระจกตา มีแผลเป็นบนกระจกตา โรคกระจกตาโก่ง กระจกตาถลอก ตาแห้งอย่างรุนแรง ตาอักเสบ ตาแพ้แสง
- ผู้ที่มีโรคตาอย่างอื่น เช่น ต้อหินขั้นรุนแรง ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม สายตาขี้เกียจ หรือดวงตาติดเชื้อ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี เริมที่ตา หรืองูสวัดขึ้นตา
- ผู้ที่มีค่าสายตาไม่คงที่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาเกิน 50 ใน 1 ปี
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคุณแม่กำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีสายตายาวแต่กำเนิด หรือสายตายาวตามอายุ (จักษุแพทย์จะพิจารณารักษาด้วยวิธีอื่นที่เหมาะสม)
ReLEx SMILE และ SMILE Pro มีอัตราการประสบความสำเร็จมากแค่ไหน?
จากผลการศึกษาของผู้ที่ทำการผ่าตัดแก้ไขสายตาด้วยวิธี ReLEx SMILE และ SMILE Pro มีอัตราความสำเร็จดังนี้
- ระดับการมองเห็นใน 6 เดือน : ร้อยละ 99 มีระดับการมองเห็น 20/40 ใน 6 เดือนหลังเข้ารับการผ่าตัด
- ค่าสายตาเป็นปกติ 20/20 : ร้อยละ 88 ของกลุ่มผู้ที่ทำ ReLEx SMILE และ SMILE Pro ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก 6 เดือน มีพัฒนาการการมองเห็นที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยมีระดับการมองเห็น 20/20 ซึ่งเป็นระดับการมองเห็นของผู้ที่มีค่าสายตาเป็นปกติ
ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงอัตราความสำเร็จเป็นอย่างสูงของผู้ที่แก้ไขค่าสายตาด้วยวิธี ReLEx SMILE และ SMILE Pro ทั้งนี้ ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันตามสุขภาพของแต่ละบุคคล ผู้ที่ต้องการรักษาด้วย 2 วิธีข้างต้น ควรปรึกษาจักษุแพทย์ในระหว่างการตรวจตาเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นผู้ที่สามารถรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวได้หรือไม่
SMILE Pro ใช้เวลาในการพักฟื้นกี่วัน?
โดยทั่วไป ผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธี SMILE Pro สามารถใช้สายตาได้ในวันถัดไปหลังจักษุแพทย์เปิดผ้าปิดตาออกเพื่อตรวจอาการและประเมินผลการรักษา ทั้งนี้อาจมีอาการตาขุ่นมัวบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการมองเห็นจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ และจะสามารถมองเห็นได้อย่างสมบูรณ์ภายใน 2-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการรักษาควรหยอดยาให้ครบตามจักษุแพทย์สั่ง ระวังไม่ให้น้ำเข้าตา และปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด
SMILE Pro และ การทำ LASIK อื่นๆ มีความปลอดภัยแค่ไหน?
ในทางการแพทย์ SMILE Pro, ReLEx SMILE, Femto LASIK และ PRK ถือเป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติที่มีความปลอดภัยและให้ผลในการรักษาที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMILE Pro ที่ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบไม่เปิดฝากระจกตาขึ้น ช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาได้
SMILE Pro รพ.เมดพาร์ค
ศูนย์จักษุ รพ.เมดพาร์ค กรุงเทพ ประเทศไทย นำโดยทีมจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ในการทำเลสิก มีความพร้อมในการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอนทั้งก่อนและหลังรับการรักษาทั้งการทำ PRK, Femto LASIK และเทคโนโลยีรุ่นล่าสุด SMILE Pro เพื่อแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติทุกชนิดทั้งสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาวแต่กำเนิด หรือสายตายาวตามอายุด้วยเทคโนโลยีช่วยผ่าตัดระบบ AI ที่ทันสมัยและอุปกรณ์การตรวจวินิจฉัยและรักษาประสิทธิภาพสูง
ทีมจักษุแพทย์ รพ.เมดพาร์ค ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว ที่ช่วยให้การผ่าตัดมีความรวดเร็ว แม่นยำ ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน ร่นระยะเวลาการพักฟื้น ช่วยแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้รับการรักษามีการมองเห็นเป็นปกติ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระ