เลือกหัวข้อที่อ่าน
- เนื้องอกต่อมไทรอยด์ คืออะไร?
- เนื้องอกต่อมไทรอยด์ มีกี่ประเภทอะไร?
- เนื้องอกต่อมไทรอยด์ มีอาการอย่างไร?
- การตรวจวินิจฉัยเนื้องอกต่อมไทรอยด์ มีอะไรบ้าง?
- วิธีการรักษาเนื้องอกต่อมไทรอยด์ มีกี่วิธี?
เนื้องอกต่อมไทรอยด์ คืออะไร?
ต่อมไทรอยด์ เป็นอวัยวะที่อยู่ระหว่างกล่องเสียงและระดับของกระดูกไหปลาร้า ทำหน้าที่หลั่งฮอร์โมน triiodothyronine (T3) และ thyroxine (T4) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานและการกักเก็บพลังงานสำรองของร่างกาย เนื้องอกต่อมไทรอยด์มักเป็นทรงกลมหรือวงรี และมักพบได้บ่อย เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรจะมีเนื้องอกต่อมไทรอยด์อย่างน้อย 1 ก้อน โดยราว 95% ไม่เป็นเนื้อร้าย
เนื้องอกต่อมไทรอยด์ มีกี่ประเภทอะไร?
เนื้องอกต่อมไทรอยด์แบบไม่เป็นมะเร็ง
- ก้อนไทรอยด์ตะปุ่มตะป่ำ (Multinodular goiter)
- ภาวะต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรัง (Hashimoto's thyroiditis)
- คอล์ลอยด์ซีสต์ (Colloid cyst)
- เนื้องอกไทรอยด์ชนิดฟอลลิคูลาร์ (Follicular adenomas)
เนื้องอกต่อมไทรอยด์แบบเป็นมะเร็ง
- มะเร็งไทรอยด์ชนิดพาพิลลารี่ (Papillary carcinoma)
- มะเร็งไทรอยด์ชนิดฟอลลิคูลาร์ (Follicular carcinoma)
- มะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดเมดัลลารี (Medullary carcinoma)
- มะเร็งไทรอยด์ชนิดอะนาพลาสติก (Anaplastic carcinoma)
- มะเร็งต่อมน้ำเหลืองของต่อมไทรอยด์ (Primary thyroid lymphoma)
- มะเร็งระยะลุกลามไปที่ต่อมไทรอยด์ จากมะเร็งเต้านมและไต (Metastic carcinoma)
เนื้องอกต่อมไทรอยด์ มีอาการอย่างไร?
เนื้องอกต่อมไทรอยด์ มักไม่แสดงอาการใด ๆ แต่เนื้องอกที่มีขนาดใหญ่จะสามารถคลำพบหรือมองเห็นได้ที่คอ ซึ่งเนื้องอกเหล่านี้อาจจะไปเบียดหลอดอาหาร ทำให้มีปัญหาด้านการกลืนหรือหายใจติดขัด หากเนื้องอกต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมน thyroxine (T4) ออกมามาก อาจนำไปสู่ภาวะต่อมไทรอยด์ทํางานมากเกินไป ผู้ป่วยจะเหงื่อออกมาก น้ำหนักลดลงโดยไม่มีสาเหตุ หัวใจเต้นเร็วหรือผิดจังหวะ มือสั่น ขี้หงุดหงิด
ควรพบแพทย์เมื่อไร?
แม้ว่าเนื้องอกต่อมไทรอยด์จะไม่เป็นเนื้อร้าย แต่เมื่อมีอาการดังที่กล่าวมาแล้ว ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสัญญาณของโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลืนอาหารหรือหายใจลำบาก
หากน้ำหนักลดลง แม้ว่าจะรับประทานหรืออยากอาหารเป็นปกติหรือเพิ่มขึ้น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ควรเข้ารับการตรวจว่ามีภาวะต่อมไทรอยด์ทํางานมากเกินไปหรือไม่
หากรู้สึกหนาวบ่อย ๆ เหนื่อยง่าย หดหู่ ผิวแห้ง ท้องผูก หรือมีปัญหาเรื่องความจำ นี่อาจเป็นสัญญาณของภาวะต่อมไทรอยด์ทํางานน้อยเกินไป
ภาวะแทรกซ้อนจากเนื้องอกต่อมไทรอยด์
- ภาวะกลืนลำบากเนื่องจากเนื้องอกไทรอยด์
- ภาวะต่อมไทรอยด์ทํางานมากเกินไป ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงของภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ โรคกระดูกพรุน และภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษวิกฤติซึ่งพบได้น้อยแต่เป็นอันตรายถึงชีวิต
- ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์เนื่องจากการผ่าตัดไทรอยด์ออกไป ซึ่งทำให้ต้องพึ่งพาการใช้ยาบำบัดภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
การตรวจวินิจฉัยเนื้องอกต่อมไทรอยด์ มีอะไรบ้าง?
- การตรวจร่างกาย รวมถึงการตรวจต่อมไทรอยด์โดยการให้ผู้ป่วยกลืนน้ำลาย เพื่อดูว่ามีเนื้องอกหรือไม่ แพทย์จะตรวจดูอาการที่เป็นสัญญาณเตือนของภาวะต่อมไทรอยด์ทํางานมากเกินไปและภาวะต่อมไทรอยด์ทํางานน้อยเกินไปด้วย
- การตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ เพื่อวัดระดับฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ในเลือด (thyroid-stimulating hormone: TSH) และดูว่ามีภาวะต่อมไทรอยด์ทํางานมากเกินไปและภาวะต่อมไทรอยด์ทํางานน้อยเกินไปหรือไม่
- การอัลตราซาวด์ เพื่อถ่ายภาพเนื้องอกต่อมไทรอยด์เพื่อดูว่าเป็นถุงน้ำหรือก้อนเนื้องอก และตรวจดูปริมาณก้อนเนื้องอก
- การใช้เข็มเจาะดูดชิ้นเนื้อโดยใช้อัลตราซาวด์นำทาง สามารถทำเป็นหัตถการแบบผู้ป่วยนอกได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นชิ้นเนื้อจะถูกนำส่งไปตรวจว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ในห้องปฏิบัติการ
- การทำไทรอยด์สแกน (Thyroid scan) แพทย์จะทำการฉีดสารไอโซโทปกัมมันตรังสีให้ผู้เข้ารับการตรวจก่อนที่จะทำการถ่ายภาพต่อมไทรอยด์ เนื้องอกที่หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากจะดูดซับไอโซโทปมากกว่าเนื้อเยื่อปกติ เนื้องอกประเภทนี้คือ hot nodule ซึ่งมักไม่เป็นมะเร็ง เนื้องอกที่ดูดซับไอโซโทปได้น้อยคือ cold nodule มักเป็นเนื้อร้าย ซึ่งต้องทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
วิธีการรักษาเนื้องอกต่อมไทรอยด์ มีกี่วิธี?
- วิธีการรักษาเนื้องอกไทรอยด์ที่ไม่เป็นมะเร็ง
- การเฝ้าระวัง
ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจร่างกายและตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ตามนัดทุกครั้งเพื่อดูว่าต่อมไทรอยด์โตขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ หรือไม่ - การรับประทานยาบำบัดภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
- การผ่าตัด
แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดหากเนื้องอกไปอุดกั้นหลอดลมหรือหลอดอาหาร รวมถึงเนื้องอกที่อาจสงสัยว่าเป็นมะเร็ง
- การเฝ้าระวัง
- วิธีการรักษาเนื้องอกไทรอยด์จากภาวะต่อมไทรอยด์ทํางานมากเกินไป
- การกลืนแร่
ผู้ป่วยจะทำการกลืนแร่ในรูปแบบแคปซูลหรือน้ำเพื่อทำให้เนื้องอกหดตัว อาการมักดีขึ้นภายในเวลา 2-3 เดือนหลังเข้ารับการรักษา - ยาต้านไทรอยด์
เป็นการรักษาระยะยาว ผู้ป่วยจะรับประทานยา methimazole เพื่อบรรเทาอาการต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป - การผ่าตัด
- การกลืนแร่
- วิธีการรักษามะเร็งไทรอยด์
- การผ่าตัดต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมดออกไป
หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจำเป็นต้องรับประทานยาบำบัดภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ความเสี่ยงจากการผ่าตัดได้แก่เส้นประสาท เส้นเสียง หรือต่อมพาราไทรอยด์ (parathyroid gland) ได้รับความเสียหาย
- การผ่าตัดต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมดออกไป