เลือกหัวข้อที่อ่าน
ภาวะสมองบาดเจ็บ
ภาวะสมองบาดเจ็บโดยปกติเกิดจากการกระแทกอย่างรุนแรงที่ศีรษะหรือร่างกาย นอกจากนี้ยังอาจเป็นผลมาจากการกระแทกอย่างกะทันหันโดยวัตถุบางชนิด เช่น กระสุนหรือกะโหลกศีรษะ ในการบาดเจ็บที่สมองไม่รุนแรงเซลล์สมองอาจได้รับผลกระทบชั่วคราว ในขณะที่การบาดเจ็บที่สมองที่รุนแรงอาจนำไปสู่ความเสียหายของสมองรวมถึงการฟกช้ำของเนื้อเยื่อที่อาจฉีกขาดและเกิดเลือดออก การบาดเจ็บเหล่านี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวหรือเสียชีวิตได้
อาการของภาวะสมองบาดเจ็บ
ทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจอาจได้รับผลกระทบจากภาวะสมองบาดเจ็บ โดยสัญญาณและอาการของภาวะสมองบาดเจ็บอาจปรากฏขึ้นทันทีหลังจากได้รับบาดเจ็บ หรืออาจเกิดขึ้นหลายวันหรือหลายสัปดาห์หลังจากนั้น
1. การบาดเจ็บที่สมองเล็กน้อย
ผู้ที่มีบาดแผลทางสมองเล็กน้อยอาจมีอาการ:
- ปวดหัว
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
- อ่อนเพลียหรือง่วงนอน
- ปัญหาการพูด
- เวียนหัว
- การสูญเสียความสมดุล
- หมดสติเป็นวินาทีหรือนาที
- สับสนโดยไม่เสียการทรงตัว
- อาการทางประสาทสัมผัส
- มองเห็นภาพซ้อน
- หูอื้อ
- ความสามารถของกลิ่นหรือรสชาติเปลี่ยนแปลงไป
- ความไวต่อแสงหรือเสียง
- อาการทางปัญญาหรือทางจิต
- อารมณ์เปลี่ยนแปลงหรือแกว่ง
- ปัญหาเกี่ยวกับความจำหรือสมาธิ
- อาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวล
2. ภาวะสมองบาดเจ็บในระดับปานกลางถึงรุนแรง
สัญญาณและอาการของภาวะสมองบาดเจ็บในระดับปานกลางถึงรุนแรงอาจเกิดขึ้นภายในหนึ่งชั่วโมงหรือหลายวันหลังจากได้รับบาดเจ็บ สัญญาณและอาการเหล่านี้อาจรวมถึงปัญหาทางร่างกายความรู้ ความเข้าใจ และจิตใจดังต่อไปนี้
- อาการทางร่างกาย
- ปวดหัวเป็นเวลานานหรือมีอาการแย่ลง
- อาเจียนหรือคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ
- ชัก
- การขยายรูม่านตาของดวงตาหนึ่งหรือทั้งสองข้าง
- การระบายของเหลวใสออกจากจมูกหรือหู
- สูญเสียการประสานงานของร่างกาย
- หมดสติเป็นเวลาไม่กี่นาทีหรือยาวนานถึงชั่วโมง
- นิ้วมือและนิ้วเท้าอ่อนแรงหรือชา
- ไม่สามารถตื่นจากการหลับได้
- อาการทางปัญญาหรือทางจิต
- ความสับสนอย่างรุนแรง
- พฤติกรรมที่ผิดปกติ
- พูดไม่ชัด
- หมดสติ
- อาการโคม่า
- อาการในเด็ก
เด็กเล็กและทารกอธิบายอาการที่เกิดขึ้นกับตนเองได้ยาก ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่อาจจำเป็นต้องสังเกตุสัญญาณและอาการของภาวะสมองบาดเจ็บหากเด็กมีอาการ- หงุดหงิดผิดปกติ
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของนิสัยและพฤติกรรมบางอย่าง รวมถึงการกิน การนอน และดื่มนม
- การสูญเสียความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ
- มีสมาธิลดน้อยลง
- ร้องไห้อย่างต่อเนื่องและยากที่จะหยุด
- อาการชัก
- ง่วงนอน
- อารมณ์เศร้าหรือซึมเศร้า
เมื่อไหร่ต้องไปพบแพทย์
ขอแนะนำให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะไปพบแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม ในกรณีที่มีสัญญาณและอาการของภาวะสมองบาดเจ็บเกิดขึ้นให้รีบพบแพทย์โดยทันที
สาเหตุ
โดยทั่วไปการบาดเจ็บภาวะสมองบาดเจ็บเกิดจากการกระแทกหรือการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือร่างกาย โดยการบาดเจ็บอาจเกิดจากบางเหตุการณ์ดังต่อไปนี้
- การล้ม
- อุบัติเหตุทางรถยนต์
- ความรุนแรงหรือการใช้กำลัง
- การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
- ระเบิดและการบาดเจ็บจากการต่อสู้อื่น ๆ
ปัจจัยเสี่ยง
ภาวะสมองบาดเจ็บอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนในทุกช่วงอายุ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของภาวะสมองบาดเจ็บมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกับบุคคลดังต่อไปนี้
- เด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 4 ขวบ
- ผู้ที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 24 ปี
- ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
- เพศชายในทุกช่วงอายุ
ภาวะแทรกซ้อน
การบาดเจ็บที่สมองอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังหรือถาวรซึ่งอาจรวมถึง
- ภาวะแทรกซ้อนที่มีสติ
- โคม่า
- ภาวะผู้ป่วยติดเตียง
- สภาวะที่มีสติน้อยที่สุด
- สมองตาย
- ภาวะแทรกซ้อนทางกายภาพ
- ชัก
- ภาวะ Hydrocephalus หรืออาการน้ำคั่งในสมอง
- การติดเชื้อ
- ความเสียหายของเส้นเลือด
- ปวดหัว
- วิงเวียน
- ภาวะแทรกซ้อนทางปัญญา
ปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจ เช่น ความจำ การเรียนรู้ การใช้เหตุผล การตัดสินใจ หรือสมาธิ ความสามารถในการบริหารจัดการ รวมถึงการแก้ปัญหา - ภาวะแทรกซ้อนในการสื่อสาร
- ปัญหาในการทำความเข้าใจคำพูด การเขียน การอ่าน สัญญาณจากผู้ฟัง หรือสัญญาณอวัจนภาษา
- ปัญหาในการพูดหรือเขียน
- ขาดความสามารถในการคิด วิเคราะห์
- ปัญหาในการติดตามและมีส่วนร่วมในการสนทนา
- ปัญหาในการใช้น้ำเสียง ระดับเสียง หรือความเครียดในการแสดงอารมณ์ ทัศนคติ หรือความแตกต่างในความหมาย
- ปัญหาในการเริ่มหรือหยุดการสนทนา
- ภาวะ Dysarthria หรือภาวะที่ไม่สามารถใช้กล้ามเนื้อที่จำเป็นในการสร้างคำได้
- ภาวะแทรกซ้อนทางประสาทสัมผัส
- เสียงดังในหูเป็นเวลานาน
- ปัญหาในการรับรู้วัตถุ
- การประสานของมือและตาบกพร่อง
- การมองเห็นภาพซ้อนหรือเกิดจุดบอด
- การเปลี่ยนแปลงของรสชาติและกลิ่น
- ความรู้สึกชา ปวด หรือคัดในบริเวณผิวหนัง
- สูญเสียสมดุล หรือเวียนศีรษะ
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
- ขาดความตระหนักรู้
- เกิดพฤติกรรมเสี่ยง
- ความยากลำบากในการเข้าใจสถานการณ์ทางสังคม
- การไม่สามารถควบคุมวาจาหรือกายภาพ
- ความสามารถในการควบคุมตนเองน้อยลง
- การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์
- ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
- โกรธง่าย
- นอนไม่หลับ
- มีอาการซึมเศร้า
- เกิดความวิตกกังวล
- เกิดอารมณ์แปรปรวน
- หงุดหงิดง่าย
- ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
- นอนไม่หลับ
- เกิดโรคสมองเสื่อม
การวินิจฉัยภาวะสมองบาดเจ็บ
แพทย์อาจทำการทดสอบด้วยขั้นตอนต่างๆ เพื่อตรวจสอบความรุนแรงของการบาดเจ็บและการทำงานของสมอง การทดสอบและขั้นตอนดังกล่าวอาจรวมถึง
- กลาสโกว์โคม่าสเกล
- การทดสอบภาพรวมถึง CT scan และ MRI
- เครื่องวัดความดันในกะโหลกศีรษะ
การรักษาภาวะสมองบาดเจ็บ
การรักษาอาการบาดเจ็บที่สมองอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ อาจไม่จำเป็นต้องใช้การรักษาใดใดสำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง แต่แพทย์อาจแนะนำให้พักผ่อนหรือสั่งยาบรรเทาปวดหากคนไข้มีอาการปวดศีรษะ โดยส่วนใหญ่อาจทำการนัดหมายเพื่อติดตามอาการ อย่างไรก็ตามการรักษาอื่น ๆ สำหรับการบาดเจ็บที่สมองที่รุนแรงมากขึ้นอาจรวมถึง
- การใช้ยา
เพื่อจำกัดความเสียหายต่อสมอง แพทย์อาจสั่งจ่ายยาบางอย่างซึ่งอาจรวมถึง- ยาขับปัสสาวะ
- ยาต้านการชัก
- Coma-inducing drugs
- ศัลยกรรม
เพื่อลดความเสียหายเพิ่มเติมต่อเนื้อเยื่อสมอง แพทย์อาจทำการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมรอยแตกของกะโหลกศีรษะหรือเพื่อลดความเสี่ยงของ- ลิ่มเลือด
- เลือดออกในสมอง
- แรงกดของวัตถุซึ่งอาจรวมกึงกะโหลกศีรษะที่อาจกดหรือติดอยู่ในศีรษะ