ภาวะมีบุตรยาก คืออะไร?
ภาวะมีบุตรยาก (Infertility) คือ การที่คู่สามีภรรยาไม่มีบุตรแม้พยายามที่จะมีบุตร มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และไม่ได้คุมกำเนิดเป็นเวลามากกว่า 1 ปี ซึ่งในทางสถิติร้อยละ 70 ของคู่สามีภรรยาโดยทั่วไปที่มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ จะตั้งครรภ์ภายใน 6 เดือนแรก และร้อยละ 80 จะตั้งครรภ์ภายใน 12 เดือน
นั่นหมายความว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของคู่ปกติจะตั้งครรภ์มีบุตรภายใน 1 ปี หากคู่เรายังไม่มีบุตร เราควรไปปรึกษาแพทย์และตรวจดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าคู่ของเราจะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่ผิดปกติ บางคนตรวจแล้วก็ปกติ ไม่พบอะไร พออีกสักพักก็สามารถท้องได้เอง เรื่องของการตั้งครรภ์มีบุตรเป็นเรื่องของสถิติความน่าจะเป็นด้วย แต่เวลาถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในผู้หญิง โอกาสตั้งครรภ์ปกติจะน้อยลงตามอายุผู้หญิงที่มากขึ้น เพราะเซลล์ไข่ของเราแก่ไปตามอายุของเรานั่นเอง
ดังนั้น จึงขอแนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ ในกรณีที่ฝ่ายหญิงอายุ < 35 ปี และพยายามที่จะมีบุตรโดยไม่ได้ทำการคุมกำเนิด และมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์ มานานเป็นเวลา 1 ปี แต่ถ้าฝ่ายหญิงอายุ ≥ 35 ปี และพยายามมีบุตรมานานกว่า 6 เดือน ควรเข้ามารับการตรวจได้เลยไม่ต้องรอถึง 1 ปี
สาเหตุของภาวะมีบุตรยาก
สาเหตุของภาวะมีบุตรยากเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุจากฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง หรือจากทั้งสองฝ่าย
- ส่วนใหญ่สาเหตุทางฝ่ายชาย คือ น้ำเชื้อผิดปกติ
- สาเหตุทางฝ่ายหญิงเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- สาเหตุจากรังไข่ ได้แก่ ไข่น้อย ไข่ไม่ตก
- สาเหตุจากท่อนำไข่ คือ ท่อนำไข่อุดตัน
- สาเหตุจากโพรงมดลูกผิดปกติ คือ ตัวอ่อนฝังตัวไม่ได้
- สาเหตุจากปากมดลูก
- สาเหตุจากการอักเสบหรือมีพังผืดในช่องท้อง
การประเมินภาวะมีบุตรยาก
การตั้งครรภ์จะสำเร็จได้นั้นต้องอาศัยการเจริญพันธุ์ของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ในผู้ชายนั้นสเปิร์มหรือตัวอสุจิจะต้องแข็งแรง ผลิตออกมาจำนวนมากพอ และหลั่งเข้าไปในช่องคลอดอย่างมีประสิทธิภาพ ในผู้หญิงรังไข่จะต้องปล่อยไข่ที่สุกแล้วออกมา ท่อรังไข่ไม่ตีบตันเพื่อให้เชื้ออสุจิเดินทางไปหาไข่เพื่อทำการปฏิสนธิได้ และตัวอ่อนสามารถเคลื่อนย้ายตัวไปฝังตัวที่มดลูกได้สะดวก
การตรวจวินิจฉัยภาวะมีบุตรยาก
แพทย์จะสอบถามถึงประวัติการมีเพศสัมพันธ์และอธิบายแนวทางที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ จากนั้นจะทำการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุ อย่างไรก็ตามบางรายอาจมีภาวะมีบุตรยากที่ไม่สามารถพบสาเหตุได้
การตรวจวินิจฉัยภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชาย:
การตรวจวิเคราะห์คุณภาพของน้ำเชื้อ
ในกรณีที่การตรวจวิเคราะห์น้ำเชื้อพบความผิดปกติ จะตรวจเพิ่มเติมดังนี้ (แล้วแต่กรณี)
- การตรวจร่างกาย รวมถึงการตรวจอวัยวะเพศ
- การตรวจฮอร์โมนเช่น ตรวจหาระดับของเทสโทสเตอร์โรน เป็นต้น
- การตรวจทางพันธุกรรม เพื่อดูว่ามีความผิดปกติใดๆทางพันธุกรรมหรือไม่
- การตัดชิ้นเนื้ออัณฑะไปตรวจ
- การตรวจวินิจฉัยด้วยภาพทางการแพทย์ เช่น MRI การตรวจอัลตราซาวนด์ต่อมลูกหมากผ่านทางทวารหนัก การตรวจท่อลำเลียงน้ำเชื้อ
การตรวจวินิจฉัยภาวะมีบุตรยากในฝ่ายหญิง:
- การตรวจร่างกาย รวมถึงการตรวจทางนรีเวช
- การตรวจการตกไข่
- การฉีดสีตรวจท่อนำไข่และโพรงมดลูกเพื่อดูว่าท่อนำไข่ตีบตันหรือไม่
- การตรวจจำนวนไข่พื้นฐานและการตรวจระดับฮอร์โมนที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์
- การตรวจวินิจฉัยด้วยภาพอัลตราซาวด์บริเวณโพรงมดลูกและรังไข่
- การส่องกล้องตรวจโพรงมดลูก
- การส่องกล้องในช่องท้องเพื่อตรวจดูว่ามีความผิดปกติบริเวณท่อนำไข่ รังไข่ หรือมดลูกหรือไม่
ทั้งนี้แพทย์จะเลือกวิธีตรวจวินิจฉัยที่เหมาะกับแต่ละบุคคล