เลือกหัวข้อที่อ่าน
- โรคมือ เท้า ปาก คืออะไร
- อาการโรคมือ เท้า ปาก
- สาเหตุของโรคมือ เท้า ปาก
- ภาวะแทรกซ้อน
- การป้องกันโรคมือ เท้า ปาก
- การตรวจวินิจฉัยโรคมือ เท้า ปาก
- การรักษาโรคมือ เท้า ปาก
- การดูแลรักษาตัวที่บ้าน
- การเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
โรคมือ เท้า ปาก (Hand, Foot, and Mouth Disease)
โรคมือ เท้า ปาก หรือ Hand, Foot, and Mouth Disease (HFMD) คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Human enteroviruses ผ่านการสัมผัสกับน้ำลาย น้ำมูก ตุ่มน้ำใส หรือผื่นบริเวณผิวหนังของผู้ที่เป็นโรค โรคมือเท้าปาก เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กทารก เด็กเล็ก หรือเด็กในวัยเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี จึงมักพบการระบาดในโรงเรียน หรือสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยจะมีการระบาดอย่างมากในช่วงฤดูฝนที่มีอากาศเย็น และอากาศชื้น ทำให้เชื้อยิ่งแพร่กระจายได้รวดเร็ว และเป็นพาหะในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นต่อไปได้อีกนานหลายสัปดาห์แม้ว่าผื่นจากโรคมือ เท้า ปาก จะหายไปแล้วก็ตาม
โรคมือ เท้า ปาก มีอาการอย่างไร?
โรคมือ เท้า ปาก มีอาการเริ่มต้นโดยที่เด็ก ๆ เริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ ไม่อยากอาหาร และเริ่มงอแง โรคมือ เท้า ปาก ในเด็ก ช่วงหน้าฝน มีระยะฟักตัวอยู่ที่ 3-6 วันตามมาด้วยการมีไข้ 1-2 วัน และเริ่มปรากฎตุ่มน้ำใสด้านหน้าของปากและลําคอ มีผื่นแต่ไม่คัน และอาจมีตุ่มน้ำใส หรือตุ่มนูนเล็ก ๆ บนฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือผื่นบริเวณก้น ในบางรายอาจมีอาการทุกอาการดังที่กล่าวมา ในขณะที่บางรายอาจมีอาการเพียง 2-3 อาการ โดยปกติอาการของโรคมือเท้าปากมักไม่รุนแรง และสามารถหายได้เองภายใน 7-10 วัน
เด็กที่ป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปากบางรายอาจมีไข้สูงเฉียบพลัน และมีตุ่มน้ำใสที่ด้านหลังของปากและลําคอ ซึ่งอาจเป็นโรคเฮอร์แองจินา (Herpangina) ซึ่งเป็นโรคไวรัสในกลุ่มเดียวกันกับไวรัสโรคมือ เท้า ปากในเด็ก โดยเด็กบางรายอาจมีอาการชัก และมีตุ่มน้ำใสที่มือ เท้า หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ลูกเป็นโรคมือเท้าปาก ควรพบแพทย์เมื่อใด?
ควรไปพบแพทย์ทันทีหากเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน หรือเมื่อเด็กไม่ยอมรับประทานน้ำหรืออาหารเพราะอาจทําให้ร่างกายขาดน้ำได้ หากมีอาการนานกว่า 10 วันควรปรึกษาแพทย์
โรคมือเท้าปาก มีสาเหตุเกิดจากอะไร?
เชื้อ coxsackievirus 16 ซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่งในกลุ่ม nonpolio enteroviruses เป็นสาเหตุหลักของโรคมือเท้าปาก อย่างไรก็ตามไวรัส enterovirus ชนิดอื่นสามารถทำให้เกิดโรคได้เช่นกัน
โรคมือเท้าปากติดต่อจากคนสู่คน ผ่านการสัมผัสกับน้ำลาย น้ำมูก ละอองฝอยจากการไอหรือจาม ของเหลวจากตุ่มพอง หรืออุจจาระของผู้ติดเชื้อ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคมือเท้าปาก
วัยเด็ก ทุกคนสามารถติดเชื้อโรคมือเท้าปากได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่อายุน้อยกว่า 5-7 ปีมักได้รับผลกระทบจากโรคนี้ เนื่องจากโรคนี้ติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัสผู้ป่วย เด็กในสถานรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งมีความใกล้ชิดกันจึงติดเชื้อได้ง่าย ส่วนเด็กโตและผู้ใหญ่สามารถพัฒนาภูมิคุ้มกันโรคหลังได้รับเชื้อ
มือเท้าปาก มีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่?
อาการของโรคมือเท้าปากมักไม่รุนแรง หายได้เอง อย่างไรก็ตาม บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ดังนี้
- ภาวะขาดน้ำ
เด็กที่ป่วยมักจะดื่มน้ำและรับประทานอาหารได้น้อยลงเนื่องจากแผลในปาก หากไม่รับประทานอะไรได้เลย แพทย์อาจแนะนําให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อรับน้ำเกลือ - เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส
หากเชื้อ enterovirus เข้าสู่สมองอาจทําให้เกิดเยื่อหุ้มสมองและน้ำไขสันหลังรอบสมองและไขสันหลังอักเสบได้ อย่างไรก็ตามอาการนี้มักพบได้น้อย - โรคไข้สมองอักเสบ
เป็นอาการอักเสบของสมองที่พบได้น้อย แต่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต
โรคมือเท้าปาก มีวิธีป้องกันอย่างไร?
- ล้างมือด้วยสบู่ก่อนรับประทานอาหารหรือเตรียมอาหาร ทําความสะอาดมือให้สะอาดหลังการจาม ไอ เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก หรือใช้ห้องน้ำ
- ทําความสะอาดของเล่นและพื้นผิวสัมผัสร่วมที่คนใช้บ่อย ๆ เช่น ลูกบิดประตู
- สอนวิธีการล้างมืออย่างถูกต้องให้กับเด็ก ๆ อธิบายและเตือนว่าไม่ควรเอานิ้ว ของเล่น หรือวัตถุอื่น ๆ เข้าปาก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง งดไปสถานรับเลี้ยงเด็กหากลูกป่วย
โรคมือเท้าปาก มีการตรวจวินิจฉัยอย่างไร?
แพทย์จะถามอายุของเด็ก และประเมินอาการ แผลในปากว่าเกิดจากโรคมือเท้าปากหรือการติดเชื้อไวรัสอื่น ๆ แพทย์อาจให้เก็บเชื้อที่คอหรืออุจจาระไปตรวจเพื่อตรวจสอบชนิดของไวรัส
โรคมือเท้าปาก มีวิธีรักษาอย่างไร?
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคมือเท้าปากโดยเฉพาะ โดยปกติโรคจะหายเองภายใน 7-10 วัน อย่างไรก็ตามสามารถบรรเทาความรุนแรงได้ด้วยการใช้ยาชาในช่องปากเฉพาะที่ ยา acetaminophen หรือ ibuprofen
การดูแลรักษาเด็กที่บ้าน เมื่อเป็นมือเท้าปาก
เนื่องจากความเจ็บปวดที่เกิดจากตุ่มพองในปากและลําคออาจทำให้เด็กไม่อยากอาหาร คุณพ่อคุณแม่สามารถปฏิบัติตามคําแนะนําด้านล่างเพื่อกระตุ้นให้เด็ก ๆ รับประทานอาหารได้มากขึ้นและบรรเทาอาการเจ็บปวดภายในช่องปาก
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือเพื่อบรรเทาอาการอักเสบและความเจ็บปวด
- งดรับประทานผลไม้รสเปรี้ยว น้ำผลไม้ หรือโซดาเนื่องจากมีกรด ซึ่งอาจสร้างความระคายเคืองภายในช่องปาก
- ให้รับประทานของเย็น ๆ เช่น ไอติมแท่ง น้ำแข็ง ไอศกรีม และโยเกิร์ตเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
- จิบน้ำเย็น
- รับประทานอาหารอ่อน ๆ หากเคี้ยวไม่ไหว
การเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
- จดอาการและประวัติทางการแพทย์ของบุตรหลาน
- จดบันทึกยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งหมด พร้อมปริมาณที่รับประทาน
- จดคําถามที่ต้องการถามแพทย์
ตัวอย่างคําถามที่คุณอาจต้องการถามแพทย์
- อะไรคือสาเหตุของอาการของโรค
- บุตรหลานต้องได้รับตรวจเพิ่มเติมใด ๆ หรือไม่
- ควรจัดการกับอาการเพื่อให้บัตรหลานสบายตัวได้อย่างไร
- มีข้อห้ามใด ๆ หรือไม่
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- โรคมือ เท้า ปาก ระบาดเมื่อไหร่?
โรคมือ เท้า ปาก พบได้บ่อยที่สุดในช่วงฤดูฝน โดยพบการติดเชื้อมากในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียน ซึ่งเด็กอยู่ใกล้ชิดกัน ในช่วงสัปดาห์แรกของการติดเชื้อเป็นช่วงที่เชื้อแพร่กระจายได้เร็วที่สุด และเด็ก ๆ ที่ติดเชื้อยังสามารถแพร่กระจายไวรัสต่อได้อีกหลายสัปดาห์หลังไม่มีอาการแล้ว ผู้ใหญ่ที่ได้รับเชื้อสามารถแพร่กระจายเชื้อได้เช่นกันแม้ว่าจะไม่มีอาการใด ๆ ก็ตาม - อาการโรคมือ เท้า ปาก เป็นอย่างไร?
โรคมือ เท้า ปาก มีระยะฟักตัว 3-6 วัน ก่อนที่จะเริ่มมีไข้และเจ็บคอ เด็ก ๆ อาจไม่อยากอาหารและเริ่มงอแง หลังจากมีไข้เป็นเวลา 1-2 วัน จะปรากฎตุ่มพองด้านหน้าของปากและลําคอ เกิดผื่นที่ไม่คัน แต่อาจมีตุ่มพองหรือตุ่มนูนเล็ก ๆ บนฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือผื่นอาจขึ้นที่บริเวณก้นได้ - โรคมือ เท้า ปาก เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
ควรไปพบแพทย์ทันทีหากเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน หรือ เมื่อเด็กไม่ยอมรับประทานน้ำหรืออาหารเพราะอาจทําให้ร่างกายขาดน้ำได้ หากมีอาการนานกว่า 10 วันควรปรึกษาแพทย์ - สาเหตุของโรคมือ เท้า ปาก คืออะไร?
เชื้อ coxsackievirus 16 ซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่งในกลุ่ม nonpolio enteroviruses เป็นสาเหตุหลักของโรคมือเท้าปาก อย่างไรก็ตามไวรัส enterovirus ชนิดอื่นสามารถทำให้เกิดโรคได้เช่นกัน โรคมือเท้าปากติดต่อจากคนสู่คน ผ่านการสัมผัสกับน้ำลาย น้ำมูก ละอองฝอยจากการไอหรือจาม ของเหลวจากตุ่มพอง หรืออุจจาระของผู้ติดเชื้อ - คำถาม: รักษาโรคมือ เท้า ปาก อย่างไร
คำตอบ: ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคมือเท้าปากโดยเฉพาะ โดยปกติโรคจะหายเองภายใน 7-10 วัน อย่างไรก็ตามสามารถบรรเทาความรุนแรงได้ด้วยการใช้ยาชาในช่องปากเฉพาะที่ ยา acetaminophen หรือ ibuprofen - คำถาม: โรคมือ เท้า ปาก ควรดูแลตัวเองอย่างไร
คำตอบ: เนื่องจากความเจ็บปวดที่เกิดจากตุ่มพองในปากและลําคออาจทำให้เด็กไม่อยากอาหาร คุณพ่อคุณแม่สามารถปฏิบัติตามคําแนะนํา เพื่อกระตุ้นให้เด็ก ๆ รับประทานอาหารได้มากขึ้นและบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น บ้วนปากด้วยน้ำเกลือเพื่อบรรเทาอาการอักเสบและความเจ็บปวด งดรับประทานผลไม้รสเปรี้ยว น้ำผลไม้ หรือโซดา ให้รับประทานของเย็น ๆ เช่น ไอติมแท่ง น้ำแข็ง ไอศกรีม รับประทานอาหารอ่อน ๆ เป็นต้น