เลือกหัวข้อที่ต้องการ
- เนื้องอกต่อมใต้สมอง
- อาการของเนื้องอกต่อมใต้สมอง
- เมื่อไหร่จึงควรพบแพทย์
- สาเหตุ
- ปัจจัยเสี่ยงการรัษา
- การรัษา
เนื้องอกต่อมใต้สมอง
เนื้องอกต่อมใต้สมองคือการเจริญเติบโตที่ผิดปกติในต่อมใต้สมอง โดยเนื้องอกชนิดนี้มักไม่เป็นมะเร็งและมักจะไม่แพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย การเกิดเนื้องอกต่อมใต้สมองมีผลต่อการผลิตฮอร์โมนหลายชนิดที่มีความสำคัญต่อการทำงานในหลายระบบของร่างกาย ทั้งนี้การรักษาอาจรวมถึงการผ่าตัด การใช้ยาเพื่อควบคุมระดับฮอร์โมน ตลอดจนการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
อาการของเนื้องอกต่อมใต้สมอง
สัญญาณและอาการของเนื้องอกต่อมใต้สมองแตกต่างกันไปตามฮอร์โมนที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับขนาดและการกดทับของเนื้องอกในโครงสร้างอื่น ๆ เนื้องอกที่มีขนาด 1 เซนติเมตรถือเป็นเนื้องอกต่อมใต้สมองขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Macroadenomas เนื้องอกที่มีขนาดเล็กกว่านี้ เรียกว่า Microadenomas
จากผลของการกดทับของเนื้องอก คนไข้อาจมีอาการปวดศีรษะและสูญเสียการมองเห็นโดยเฉพาะการสูญเสียการมองเห็นส่วนปลาย การพัฒนาเนื้องอกต่อมใต้สมองอาจทำให้เกิดอาการที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน อันได้แก่
- การผลิตฮอร์โมนมากเกินไป
- การขาดฮอร์โมน
- กระตุ้นต่อมหมวกไตชั้นนอกให้สร้างฮอร์โมนคอร์ทิซอล (ATCH tumors)
ผู้ที่มีเนื้องอก ACTH อาจพบกลุ่มคุชชิ่งที่ก่อให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
-
ไขมันสะสมบริเวณส่วนกลางและหลังส่วนบน
-
ความกลมของใบหน้า
-
กล้ามเนื้ออ่อนแรง
-
แขนและขาผอมบาง
-
น้ำตาลในโลหิตสูง
-
ความดันโลหิตสูง
-
เกิดสิว
-
กระดูกอ่อนแอ เปราะบาง
-
รอยช้ำ
-
ผิวหนังแตกลาย
-
ความวิตกกังวล
-
อาการหงุดหงิด
-
อาการซึมเศร้า
กระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth hormone-secreting tumors)
เนื้องอกต่อมใต้สมองสามารถเพิ่มปริมาณการหลั่งโกรทฮอร์โมนซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
- ลักษณะใบหน้าหยาบ
- มือและเท้าขยาย
- การขับเหงื่อเพิ่มขึ้น
- น้ำตาลในโลหิตสูง
- ความดันโลหิตสูง
- ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
- อาการปวดข้อ
- ฟันเก
- ขนตามร่างกายเพิ่มขึ้น
กระตุ้นการหลังฮอร์โมนโปรแลคติน Prolactin secreting tumors
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ประจำเดือนขาด
- การระบายน้ำนมออกจากเต้านม
- จำนวนอสุจิลดลง
- สูญเสียความต้องการทางเพศ
- ปัญหาสมรรถภาพทางเพศ
- การเจริญเติบโตของเต้านมผิดปกติ
กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนต่อมไทรอยด์
- น้ำหนักลด
- หัวใจเต้นผิดปกติหรือเต้นเร็ว
- อาการวิตกกังวล
- อาการหงุดหงิด
- ถ่ายท้องบ่อย
- ขับเหงื่อเพิ่มมากขึ้น
เมื่อไหร่จึงควรพบแพทย์
ควรพบแพทย์หากพบสัญญาณและอาการที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หากสมาชิกในครอบครัวของคุณมีประวัติที่เกี่ยวข้องกับเนื้องอกต่อมไร้ท่อชนิดที่ 1 (MEN1)
สาเหตุ
เนื้องอกต่อมใต้สมองเกิดจากการเติบโตของเซลล์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ก่อตัวเป็นเนื้องอกในต่อมใต้สมอง สาเหตุของการเติบโตที่ผิดปกตินี้ยังไม่ชัดเจน แต่พบว่าการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมอาจเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของเนื้องอกต่อมใต้สมอง
ปัจจัยเสี่ยง
เนื้องอกต่อมไร้ท่อชนิดที่ 1 (MEN1) เป็นหนึ่งในเงื่อนไขทางพันธุกรรมที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกต่อมใต้สมองได้ เนื่องจากเนื้องอกมักเกิดขึ้นในหลายต่อมของระบบต่อมไร้ท่อ
ภาวะแทรกซ้อน
แม้ว่าเนื้องอกในต่อมใต้สมองจะไม่ค่อยเติบโตหรือแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย แต่ก็อาจทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นหรือการขาดฮอร์โมนถาวรในบางกรณี
การวินิจฉัย
เนื่องจากอาการของเนื้องอกต่อมใต้สมองมีความคล้ายคลึงกับภาวะสุขภาพอื่น ๆ จึงมักไม่ได้รับการวินิจฉัยและอาจพบได้จากการทดสอบภาวะทางสุขภาพอื่น ๆ อย่างไรก็ตามในการวินิจฉัยเนื้องอกต่อมใต้สมองแพทย์อาจทำการตรวจร่างกายและทำการทดสอบหลายอย่าง ซึ่งอาจรวมไปถึงการทดสอบดังต่อไปนี้
- การตรวจเลือดและปัสสาวะ
- เพื่อวัดระดับฮอร์โมน
- การถ่ายภาพสมอง เช่น CT scan หรือ MRI เพื่อสำรวจตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก
- การทดสอบการมองเห็น เพื่อตรวจสอบผลกรทบของเนื้องอกต่อการมองเห็นของคุณ
การรัษา
การรักษาเนื้องอกต่อมใต้สมองขึ้นอยู่กับชนิด ขนาด และการเจริญเติบโตของเนื้องอก แพทย์มักพิจารณาอายุและเงื่อนไขอื่น ๆ ของแต่ละบุคคล บางรายที่มีเนื้องอกต่อมใต้สมองที่ไม่ก่อให้เกิดสัญญาณหรืออาการอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาใด ๆ แต่อาจจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดรวมถึงการตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามสังเกตุการเจริญเติบโตของเนื้องอก
อย่างไรก็ตามแพทย์อาจพิจารณาการรักษาบางอย่างสำหรับผู้ที่มีเนื้องอกต่อมใต้สมองที่ทำให้เกิดอาการบางอย่าง โดยทางเลือกของการรักษาอาจรวมถึงวิธีการดังต่อไปนี้
การผ่าตัด
ในกรณีที่เนื้องอกมีผลต่อการสร้างฮอร์โมนหรือกดทับเส้นประสาทตา แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดเนื้องอกที่ต่อมใต้สมองออก โดยการผ่าตัดมีสองเทคนิคหลัก ได้แก่
การผ่าตัดส่องกล้อง (Endoscopic transnasal transsphenoidal surgery)
เนื้องอกจะถูกกำจัดออกทางจมูกและไซนัสโดยไม่ก่อให้เกิดแผลภายนอก เทคนิคนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อสมองส่วนอื่นและไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นที่มองเห็นได้
การผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ (Transcranial approach หรือ craniotomy)
เทคนิคนี้จะช่วยให้สามารถเอาเนื้องอกที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนมากขึ้นออกทางส่วนบนของกะโหลกศีรษะของคุณได้
การรักษาด้วยรังสี
จุดมุ่งหมายของการรักษาด้วยรังสีคือการทำลายเนื้องอกโดยการส่งลำแสงพลังงานสูงไปยังเนื้องอกโดยตรง แพทย์อาจใช้การรักษานี้เพียงอย่างเดียวหรือกระทำหลังการผ่าตัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา การรักษาด้วยรังสีมีหลายวิธี ได้แก่
- การฉายรังสีแบบครั้งเดียว (Stereotactic Radiosurgery)
- การรักษาด้วยรังสีจากภายนอก (External Beam Radiation Therapy)
- การรักษาด้วยรังสีแบบปรับความเข้ม (Intensity modulated radiation therapy หรือ IMRT)
- การบำบัดด้วยลำแสงโปรตอน (Proton beam therapy)
การใช้ยา
แพทย์อาจสั่งยาบางชนิดเพื่อลดขนาดของเนื้องอกต่อมใต้สมองบางชนิดหรือเพื่อควบคุมระดับฮอร์โมน ได้แก่
- เพื่อควบคุมการหลั่งฮอร์โมนโปรแลคติน
- เพื่อรักษากลุ่มอาการคุชชิ่งที่เกิดจากการผลิตฮอร์โมนคอร์ทิซอล
- เพื่อควบคุมการปริมาณโกรทฮอร์โมน
การทดแทนฮอร์โมนต่อมใต้สมอง
คนไข้อาจต้องทานฮอร์โมนทดแทนเพื่อรักษาและควบคุมระดับฮอร์โมนหากเนื้องอกหรือการผ่าตัดลดการผลิตฮอร์โมน รวมถึงผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยรังสีบางราย
การเตรียมการก่อนการพบแพทย์
ก่อนการนัดหมายคุณควรตระหนักถึงข้อจำกัดก่อนการนัดหมาย และเตรียมข้อมูลบางอย่าง เช่น
- อาการที่เกิดขึ้น
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญของคุณ
- ยาทั้งหมดที่คุณกำลังใช้อยู่
- คำถามที่คุณต้องการถามแพทย์
ในระหว่างการปรึกษา แพทย์อาจถามคำถามบางอย่างรวมถึงข้อมูล เช่น
- จุดเริ่มต้นของอาการ
- อาการนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือเป็นครั้งคราว
- ความรุนแรงของอาการ
- สิ่งที่ทำให้อาการดีขึ้นหรือแย่ลง
- ประวัติการทดสอบด้วยภาพถ่ายทางการแพทย์ที่บริเวณศีรษะ